วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

เฮ้ย นี่เราเป็นใคร!!!

 ข้อคิด...เป็นตำรวจต้องแต่งตัวแต่งเครื่องแบบให้เรียบร้อย ไม่งั้นจะจับคนร้ายไม่ได้ เผลอ ๆ จะโดนนายรับประทานอีกต่างหาก จากกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเมืองจันท์ว่ามีเหตุลักทรัพย์ เป็นรถกระบะโตโยต้ารุ่นวีโก้ ตอนเดียวสีเทา ทะเบียน ฒก 2679 กทม.เจ้าของรถแจ้งว่ามีจีพีเอสติดตามรถ ระบุตำแหน่งครั้งสุดท้ายที่เขตตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม ตรวจสอบ และสังเกตุด้วย ต่อมาได้รับแจ้งว่า พบสัญญาณเคลื่อนที่มาทางแยกแสลง ให้ตู้ยามแสลงสกัดจับด้วย ต่อมาได้รับแจ้งว่าเข้าเขตพื้นที่คลองนารายณ์ให้ตู้ยามคลองนารายณ์สกัด แต่ไม่ได้รับแจ้งผลการปฎิบัติ ผมเองอยู่ที่บ้านศิลาพร 1ได้ยินวิทยุ จึงได้หยิบอุปกรณ์การปฏิบัติหน้าที่ออกมาสวมใส่ มีเข็มขัดเส้นที่สองที่สายตรวจทั่วไปสวมอยู่ที่เอว มีอุปกรณ์ซองปืน ซองกระสุนสำรอง 2 ซอง โทรศัพท์มือถือ วิทยุสื่อสาร กุญแจมือ ขับรถออกจากบ้านพักถึงหน้าหมู่บ้าน ได้ยินวิทยุว่ามุ่งหน้าจังหวัดตราด ผมเองขับรถเลี้ยวมุ่งหน้าหนองบัวไปแยกหนองขอนคาดว่าจะทัน แต่เข้าเขตหนองขอนวิทยุสื่อสารรับฟังไม่ได้ ติดต่อห้องวิทยุไม่ได้ เมื่อไปถึงตู้ยามหนองขอน พบเจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามหนองขอน ยืนอยู่หน้าตู้ยาม คนละฝั่งถนนกับรถที่ถูกคนร้ายโจรกรรมมาที่มุ่งหน้าจังหวัดตราด ผมใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามหนองขอน ไม่น่าเชื่อว่าห่างกันแค่ไม่เกิน 50 เมตร ติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามหนองขอนไม่ได้ (ร.ต.ท.บุญเท็น รัตนวิจารณ์)  ผมจึงตัดสินใจเอารถมาจอดฝั่งถนนขามุ่งหน้าจังหวัดตราด หันหัวรถออก สักพักมีรถยนต์คันที่ถูกโจรกรรมมาขับผ่านมามุ่งหน้าจังหวัดตราด ผมจึงได้ขับติดตามออกไป และได้ใช้โทรศัพท์ โทรไปที่หมายเลข 191 เจ้าหน้าที่รับสาย ผมแจ้งยศชื่อนามสกุลให้ศูนย์ 191 ทราบแจ้งเหตุดังกล่าว โดยบอกว่าไม่ต้องวางสายผม ผมจะติดตามและให้ศูนย์ 191 รายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสกัดตามเส้นทางหลบหนี โดยแจ้งให้ตู้ยามกสิกรรมทำการปิดถนน โดยมีรถผมประกบด้านข้างรถคันที่ถูกโจรกรรมมา พอรถจอดสนิท ผมได้ลงจากรถชักอาวุธปืนประจำกายออกมา เล็งและสั่งให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวลงจากรถ คนร้ายลงจากรถ ผมสั่งให้นอนหมอบ ผู้ต้องหาทำตามคำสั่ง ผมเก็บอาวุธปืนโดยเซฟไกปืนไว้เรียบร้อย คว้ากุญแจมือไปใส่ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ ทำการควบคุมมาไว้ข้างทาง ผมกลับไปที่รถเพื่อขับมาจอดข้างทางเพื่อลดปัญหาการจราจร ผมลงจากรถได้ พบ พ.ต.อ.....(แต่งเครื่องแบบ) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาตามระเบียบฯ คาดว่าน่าจะเป็น ผกก.สภ.แหลมสิงห์ มองมาที่ผม และสอบถามด้วยเสียงอันดังว่า "เฮ้ยนี่เราเป็นใคร เป็นตำรวจหรือว่าชาวบ้าน ทำไมแต่งตัวแบบนี้ แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย ดูซิพกปืนทีสองกระบอก" ผมเองตอบว่า "ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.เมืองจันทบุรี ติดตามรถคันนี้มาครับ" ท่าน ผกก.กล่าวอีกว่า "แต่งตัวแบบนี้ชาวบ้านเขาเห็น ถ่ายรูปส่ง ผบ.โดน ผบ.แดกตายห่าเลย ไม่ต้องถ่ายรูปนะแต่งตัวไม่เรียบร้อย" ในขณะนั้นมีหมวดจิ๋มแห่งตู้ยามหนองขอนใส่เสื้อลายสก๊อตได้บอกท่านไปว่า คนนี้เป็นตำรวจอยู่เมืองจันท์ครับ ท่านหันมาบอกว่า เราอีกคนแต่งตัวใส่เสื้อลายสก๊อต ไม่รู้ว่าเป็นตำรวจรึเปล่า ผมงี้อึ้งกิมกี่ เป็นตำรวจจะจับคนร้าย มันต้องแต่งเครื่องแบบให้เรียบร้อยอย่างนั้นทีเดียวเชียวหรือ ใส่กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ เสื้อคอวีตราโล่ห์ ที่คอของผม มีสายห้อยบัตรตราตำรวจที่เอวผมคาดเข็มขัดเส้นที่สอง แต่บังเอิญมีปืนสองกระบอก ชายเสื้อยืดที่สวมใส่อยู่มันอาจจะร่นขึ้นมาให้เห็นอาวุธปืน ซึ่งในขณะปฏิบ้ติงานเช่นนั้น อาจจะดูไม่เรียบร้อยอยู่บ้าง แต่โดยวิญญูชนทั่วไปที่ผ่านมาพบเห็นว่าตำรวจกำลังจับคนร้าย เขาจะมาสนในไหมว่า ชายไทยแต่งกายคล้ายตำรวจ ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดคอวีตราตำรวจ มีป้ายแขวนคอเป็นตราตำรวจ เขาคนนั้นเป็นใคร??? ถ้าไม่ใช่เป็นตำรวจ คำแรกที่ทักทาย นึกว่าจะเป็นคำชม กลับเป็นคำแบบนี้ หมดแรงเลย สักพักท่านก็สั่งให้ลูกน้องที่แต่งเครื่องแบบเรียบร้อย ให้เอาผู้ต้องหาพร้อมรถยนต์คันที่ถูกโจรกรรมมา เดินทางไป สภ.แหลมสิงห์เพื่อบันทึกการจับ ไม่ถามผมสักคำว่าเป็นไงมาไง ชื่ออะไร จะได้ลงชื่อในบันทึกการจับร่วมกัน มีแต่ถ่ายรูปร่วมกับผู้ต้องหาและบังเอิญมีเราดันติดภาพเขาไปด้วย เสร็จแล้วก็จากไป ทิ้งไว้แค่คำถามในใจว่า "เราแต่งตัวไม่เรียบร้อยต่อไปจะจับคนร้ายไม่ได้แล้วนะ มันเสี่ยงกับการที่จะโดนนายรับประทานเอาอีกต่างหาก" และข้อคิดอีกอย่าง ตำรวจเราไม่มีจิตสำนึกของการเป็นตำรวจและไม่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ เห็นได้จากรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองจันท์ตั้งนาน และรถที่ถูกโจรกรรมมาได้ผ่านตู้ยามริมถนนสุขุมวิทมาตั้งหลายตู้ยาม แต่ไม่มีการสกัดจับหรือรายงานว่าผ่านตู้ยามไปแล้ว มุ่งหน้าทิศทางใด ออกติดตามหรือไม่ อย่างไร แสดงให้เห็นว่า ไม่มีผู้ใดกระตือรือร้นที่จะทำหน้าที่ หรือไม่พร้อมคือไม่อยู่ในพื้นที่สามารถระงับเหตุต่าง ๆ ได้ทันท่วงทีเมื่อมีเหตุ ซึ่งจากการติดตามรถคันดังกล่าว รถคันนี้ก็ไม่ได้ใช้ความเร็วมากแต่ประการใดที่จะไม่สามารถหยุดรถนั้นได้ ถ้ามีเครื่องกีดขวางหรือปิดการจราจร จนทำให้เลยเข้าไปถึงเขตรอยต่อของแหลมสิงห์ อนิจจา...